เนื้อหาบทความ
- 1. รายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวมิชลิน 3 ดาวที่ครอบคลุมในพาสนี้
- 2. ตัวอย่างการเดินทาง
- 2.1. DAY 1: สนามบินนาริตะ/ฮาเนดะ – ชินจูกุ – มัตสึโมโต้
- 2.2. DAY 2: มัตสึโมโต้ – ฮิรายุ – ทาคายามะ
- 2.3. DAY 3: ทาคายามะ – ชิราคาว่าโกะ
- 2.4. DAY 4 : ชิราคาว่าโกะ – คานาซาวะ
- 3. ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับพาส Three-Star Route Ticket
- 4. รวมตารางเวลารถบัส
หลายคนคงจะเคยเที่ยวญี่ปุ่นด้วยเส้นทาง “Golden Route” ที่ผ่านโตเกียว โอซาก้าและเกียวโตมาแล้ว แต่อาจจะไม่เคยได้ยิน “เส้นทาง 3 ดาว” (Three-Star Route) กันมาก่อน เส้นทางนี้จะนำคุณเดินทางผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ กลิ่นอายวัฒนธรรมญี่ปุ่นและธรรมชาติอันตระการตา ซึ่งได้รับรองความน่าสนใจระดับ 3 ดาวจากมิชลินกรีนไกด์เจแปน (Michelin Green Guide Japon) รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวมรดกโลกที่พลาดไม่ได้ด้วย (ป.ล. มิชลินไม่ได้ให้ดาวแค่ร้านอาหารอย่างเดียวนะ!)
พาสชนิดนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ 1. แบบคานาซาวะ 2. แบบโทยามะ สามารถใช้เดินทางขาเดียวจากมัตสึโมโต้ไปคานาซาวะหรือโทยามะ และสามารถแวะเที่ยวที่ฮิรายุออนเซ็น ทาคายามะและชิราคาว่าโกะได้ โดยการเดินทางด้วยรถบัสในเส้นทางที่กำหนดไว้ ซึ่งข้อดีของพาสชนิดนี้คือนอกจากราคาจะถูกว่าซื้อตั๋วแยกเป็นครั้งๆแล้ว ยังกำหนดเส้นทางการเดินทางไว้คร่าวๆไว้แล้ว จึงง่ายต่อการวางแผนเส้นทาง โดยในบทความนี้จะแนะนำตัวอย่างเส้นทางที่ใช้พาสรถบัส Three-Star Route Ticket แบบคานาซาวะ
คลิกที่นี่เพื่ออ่านข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับพาส Three-Star Route Ticket
รายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวมิชลิน 3 ดาวที่ครอบคลุมในพาสนี้
1. ปราสาทมัตสึโมโต้
2. เมืองเก่าทาคายามะ
3. หมู่บ้านชิราคาว่าโกะ (+ได้รับขึ้นทะเบียนมรดกโลกด้วย)
4. สวนเค็นโระคุเอ็น
ตัวอย่างการเดินทาง
DAY 1: สนามบินนาริตะ/ฮาเนดะ – ชินจูกุ – มัตสึโมโต้
09:00 น.
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น!
หลังจากรับกระเป๋าผ่านขั้นตอนการเข้าเมืองเสร็จ ก็มุ่งหน้าเข้าสู่ชินจูกุโดยรถไฟหรือลีมูชีนบัส (ดูตารางเวลา) จากนั้นก็นั่งรถบัสมุ่งสู่เมืองมัตสึโมโต้จากท่ารถบัสชินจูกุ (Shinjuku Expressway Bus Terminal) (ดูตารางเวลา)
14:00 น.
เดินทางถึงท่ารถบัสมัตสึโมโต้ (Matsumto Bus Terminal) ฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อกเกอร์หรือโรงแรม Ace Inn Matsumoto ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับท่ารถบัสมัตสึโมโต้เพียง 1 นาที แล้วเดินไปฝากท้องมือเที่ยงที่ค่อนข้างเลทกับร้านโซบะ “Kurekino” ตรงหน้าสถานี ถ้าใครไปเช้าๆอาจจะได้เห็นพนักงานกำลังทำเส้นโซบะอย่างขะมักเขม้นผ่านหน้าต่างหน้าร้านด้วย
15:00 น.
จากสถานีมัตสึโมโต้เดินเพียง 15 นาทีก็ถึงปราสาทมัตสึโมโต้ ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 เป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดที่หลงเหลือมาจนถึงปัจจุบันของญี่ปุ่นและยังได้รับยกย่องเป็นมรดกของชาติด้วย หากมีเวลาแนะนำให้เข้าไปชมในปราสาทถึงชั้นบนสุด จะได้ชมเมืองมัตสึโมโต้และเทือกเขาเจแปนแอลป์จากมุมสูงได้ด้วย
16:00 น.
ห่างจากปราสาทเพียงเดินไม่เกิน 5 นาที ก็จะถึงถนนนาวาเตะ (Nawate) และถนนนากามาจิ (Nakamachi) ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแบบเรโทร ทำให้พอจะนึกภาพเมืองมัตสึโมโต้ในครั้งอดีตได้ ตลอดทั้งถนนเรียงรายไปด้วยร้านค้าต่างๆ ไม่แน่อาจจะหาซื้อของฝากได้จากแถวๆนี้
ชอบศิลปะดั้งเดิมญี่ปุ่น?
อ่านเพิ่มเติม: ชมภาพพิมพ์ญี่ปุ่นอุคิโยะเอะที่พิพิธภัณฑ์ที่มีคอลเลคชั่นสะสมมากที่สุดในญี่ปุ่น
18:00 น.
เดินกลับไปที่สถานีเพื่อเอาสัมภาระแล้วนั่งรถชัตเทิลบัสฟรีของโรงแรมที่จอดรออยู่หน้าสถานี เช็คอินที่โรงแรมบัวนาวิสต้า (Hotel Buena Vista) พักผ่อนรีเฟรชร่างกาย ก่อนออกไปรับประทานในโรงแรมหรือข้างนอกเพื่อชมเมืองยามราตรี หรืออาจจะไปนั่งดื่มที่บาร์แห่งใดแห่งหนึ่งในมัตสึโมโต้ด้วยก็ได้ ในตอนกลางคืนที่ปราสาทมัตสึโมโต้จะมีการประดับไฟไปจนประมาณ 3 ทุ่ม ใครที่พลาดไม่ได้ชมปราสาทตอนกลางวัน จะมาชมปราสาทตอนกลางคืนแทนก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
* รถชัตเทิลบัสของโรงแรมวิ่งทุกๆ 10 นาทีระหว่าง 7:30 – 12:00 น. และ 13:00 – 20:30 น.
อ่านเพิ่มเติม: เพลินตาและเพลินลิ้นไปกับอาหารญี่ปุ่นชั่นสูง “ไคเซกิ” ที่โรงแรมโชโฮ
DAY 2: มัตสึโมโต้ – ฮิรายุ – ทาคายามะ
9:00 น.
หลังจากรับประทานอาหารเช้าจากขั้นบนสุดของโรงแรมพร้อมๆไปกับการชมวิวเทือกเขาเจแปนแอลป์ในตอนเช้าแล้ว ก็มุ่งหน้าไปพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองมัตสึโมโต้ เพื่อชมผลงานของศิลปินก้องโลกและราชินีลายจุด “ยาโยอิ คุซามะ” ผู้ซึ่งเกิดและเติบโตขึ้นที่เมืองมัตสึโมโต้
11:00 น.
นั่งรถบัสจากท่ารถบัสมัตสึโมโต้มุ่งหน้าสู่ฮิรายุออนเซ็น เมืองออนเซ็นแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตโอะคุฮิดะ (Okuhida) เป็นออนเซ็นที่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดในแถบนี้ เติมท้องให้เต็มอิ่มก่อนแวะไปแช่ออนเซ็นยามบ่าย โดยรอบๆบริเวณนั้นมีสถานที่ให้บริการแช่ออนเซ็นแบบ Day-visit รวมถึงเรียวกังที่ให้บริการแขกที่ไม่ได้เข้าพักด้วยหลายแห่ง ออนเซ็นที่ฮิรายุมีสรรพคุณช่วยบำบัดอาการปวดเส้นประสาท โรคเกี่ยวกับผิวหนังและช่วยอบอุ่นร่างกายสำหรับคนที่ขี้หนาวด้วย
15:30 น.
กลับไปที่ป้ายรถบัสเพื่อขึ้นรถบัสรอบ 15:40 น. ไปทาคายามะ ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงก็เดินทางถึงทาคายามะประมาณ 16:30 น. มีเวลาเหลือเฟือที่จะเข้าที่พักเช็คอินก่อนที่ออกไปหาของอร่อยรับประทานเป็นมื้อเย็น และแน่นอนว่ามาถึงทาคายามะแล้ว ก็ต้องทานเนื้อวัวฮิดะคุณภาพเยี่ยม ซึ่งแทบทุกร้านจะต้องมีอยู่ในเมนูใดเมนูหนึ่งแน่นอน
DAY 3: ทาคายามะ – ชิราคาว่าโกะ
9:00 น.
ตื่นเช้าออกมาเดินตลาดเช้า “มิยาคาวะ” (Miyakawa) และ “จินยะมาเอะ” (Jinya-mae) ซึ่งขายทุกอย่างตั้งแต่ผัก ผลไม้ ไปจนถึงงานฝีมือพื้นเมืองและของกินอร่อยๆ
11:00 น.
เดินต่อไปเรื่อยๆเข้าสู่ใจกลางเมืองทาคายามะซึ่งถูกเรียกเล่นๆว่า “ลิตเติ้ลเกียวโต” ผ่านถนนที่เรียงรายไปด้วยอาคาร บ้านเรือนโบราณ ร้านค้าและร้านอาหารต่างๆนานา โดยเมนูที่ดูเหมือนจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษคือฮิดะราเมงและซูชิเนื้อฮิดะ ที่แม้ว่าราคาจะสูงไปนิดแต่ก็คุ้มค่ากับการลงทุน
14:30 น.
เดินทางออกจากทาคายามะ มุ่งหน้าต่อไปยังหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาว่าโกะ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตที่มีหิมะตกหนักที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น หมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังด้วยสถาปัตยกรรมอายุร่วมร้อยปีสไตล์ “กัชโชสุคุริ” ซึ่งมีที่มาจากรูปทรงหลังคาที่คล้ายกับมือที่กำลังพนมอยู่ ที่สำคัญคือเราสามารถพักในบ้านเหล่านี้ได้ด้วย!
16:30 น.
หลังจากเดินเล่นชมบรรยากาศในหมู่บ้านชิราคาว่าโกะและเพลินเพลินไปกับความสวยงามของวิวทิวทัศน์จนเต็มอิ่มแล้ว ก็เข้าพักในที่พักสไตล์มินชุกุเพื่อสัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตของคนท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ในช่วงฤดูหนาวหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีการประดับไฟสวยงาม สร้างบรรยากาศที่สวยงามน่าพิศวงดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วสารทิศด้วย ดูข้อมูลที่พักในชิราคาว่าโกะ
อ่านเพิ่มเติม: เดินเล่นชมหมู่บ้านชิราคาว่าโกะ หมู่บ้านมรดกโลกยอดฮิต
DAY 4 : ชิราคาว่าโกะ – คานาซาวะ
7:00 น.
ตื่นเช้ามารับประทานอาหารพื้นเมืองซึ่งที่พักได้จัดเตรียมไว้ให้ ขึ้นรถบัสรอบ 8:40 น.ต่อไปคานาซาวะ เป้าหมายสุดท้ายของเส้นทาง Three-Star Route เมืองคานาซาวะเป็นเมืองที่มีส่วนผสมของศิลปะและวัฒนธรรมอย่างลงตัว เมื่อลงรถบัสที่หน้าสถานีคานาซาวะสายตาจะต้องไปสะดุดกับ “สึซุมิมง” (Tsuzumi-mon) ซุ้มประตูไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งสร้างเลียนแบบประตูทางเข้าศาลเจ้าโทริอินั่นเอง
11:00 น.
ต่อไปมุ่งหน้าไปสวนโระคุเอ็น (Kenroku-en) หนึ่งในสวนที่สวยที่สุด 3 แห่งของญี่ปุ่น โดยการเดินหรือจะนั่งรถบัส Kanazawa Right Loop จากป้ายรถบัสหมายเลข 7 หรือรถชัตเทิลบัสที่ไปสวนเค็นโระคุเอ็น ซึ่งออกเดินทางจากป้ายรถบัสหมายเลข 6 ของสถานีก็ได้ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที (ราคา 200 เยน) สวนแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องวิวที่สวยงามโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่จะมีการขึงเชือกป้องกันหิมะไม้ให้ทับถมต้นไม้ หากต้องการจะใช้เวลาค่อยๆชมสวนต่อไปก็ย่อมได้ แต่คานาซาวะยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมายที่อยากให้ไปกัน
13:00 น.
สถานที่รับประทานอาหารเที่ยงที่แนะนำในคานาซาวะคงจะหนีไม่พ้นตลาดโอมิโจ (Omicho) ตลาดขายของทะเลที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเอโดะ ระยะทางจากสวนไปตลาดก็ไม่ไกลเกินจะเดินไปได้ แต่ก็สามารถเดินทางโดยนั่งรถบัส Kanazawa Loop Bus สายเดิมได้เช่นกัน ภายในตลาดเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร แค่มองไปยังอาหารทะเลที่วางขายละลานตา ท้องก็ร้องประท้วงแล้ว ด้วยภูมิประเทศที่ติดทะเลของจังหวัดคานาซาว่า จึงรับรองได้ว่าอาหารทะเลที่นี่จะต้องอร่อยแน่นอน
15:00 น.
เมื่ออิ่มท้องก็ออกเดินทางต่อไปยังย่านฮิงาชิชายะ (Higashi Chaya District) หนึ่งในย่านที่ยังมีเกอิชาอยู่ ตลอดทั้งบริเวณเต็มไปด้วยบ้านเรือนโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี แวะร้านน้ำชาร้านใดร้านหนึ่งเพื่อจิบชาหรือจะเข้าชมพิพิธภัณฑ์สักแห่งสองแห่งก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเลย นอกจากนี้ ยังสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ที่ทำจากทองคำเปลวของขึ้นชื่อของคานาซาวะ ซึ่งเหมาะสำหรับซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึกได้จากที่นี่ด้วย ใกล้ๆกันยังมีย่านคาซึเอะมาจิ (Kazuemachi District) ที่มีพิพิธภัณฑ์ขนมหวาน (Confectionery Museum) จัดแสดงขนมหวานและวิธีการทำหลากหลายชนิดด้วย
18:00 น.
สุดท้าย หลังจากเต็มอิ่มกับสถานที่ท่องเที่ยวแนววัฒนธรรมแล้ว ก็เปลี่ยนบรรยากาศไปชมศิลปะสมัยใหม่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะศตวรรษที่ 21(21st Century Museum of Contemporary Art) ซึ่งทุกคนจะต้องแวะไปถ่ายรูปกับผลงานศิลปะ “Swimming Pool” โดย Leandro Erlich ก่อนจะรับประทานอาหารเย็น เป็นการปิดท้ายการเดินทางโดยใช้พาส Three-Star Route ในวันสุดท้ายเพียงเท่านี้
แม้ว่าครั้งนี้เราจะเดินทางโดยเริ่มต้นใช้พาสจากมัตสึโมโต้ อย่างไรก็ตาม เราสามารถใช้พาสนี้เดินทางกลับกัน โดยเริ่มต้นจากคานาซาวะ ชิราคาว่าโกะ ทาคายาม่า ฮิรายุออนเซ็นและมาจบที่มัตสึโมโต้ตามลำดับก็ได้ แผนการเดินทางข้างต้นเป็นเพียงแค่ตัวอย่างหนึ่งของการท่องเที่ยวโดยใช้พาสรถบัส Three-Star Route เพื่อใช้เป็นไอเดียให้ทุกคนวางแผนการเดินทางในแบบของตัวเองกันค่ะ!
ส่วนในกรณีที่ซื้อพาสชนิดโทยามะ (Toyama-type) หมายความว่า แทนที่วันสุดท้ายของทริปจะจบที่คานาซาวะ เราจะออกจากชิราคาว่าโกะไปเที่ยวที่จังหวัดโทยามะและกินซูชิอร่อยๆแทน เพราะที่โทยามะก็มีอาหารทะเลที่อร่อยไม่แพ้ที่คานาซาวะ จนถูกเรียกว่าเป็น “กระชังปลาธรรมชาติ” นับเป็นหนึ่งในจังหวัดที่อาหารทะเลอร่อยที่สุดของญี่ปุ่นเลย
ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับพาส Three-Star Route Ticket
ระยะเวลาจำหน่าย: มีจำหน่ายตลอดทั้งปี
ระยะเวลาใช้งาน: 4 วันติดต่อกัน
เงื่อนไขการใช้งาน: ใช้เดินทางขาเดียวในเส้นทางรถบัสที่กำหนดไว้ระหว่างมัตสึโมโต้กับคานาซาวะหรือโทยามะ (หรือกลับกัน)
ราคา: ผู้ใหญ่ 6,000 เยน (ตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป) เด็ก 3,000 เยน (6-12 ปี)
สถานที่จำหน่าย: Matsumoto Bus Terminal / Hokutetsu Kanazawa Ekimae Center (เฉพาะพาสแบบKanazawa เท่านั้น) / Toyama Chitetsu Ticket Center (เฉพาะพาสแบบToyama เท่านั้น)
ข้อมูลสำคัญ:
· รถบัสบางสายในพาสชนิดนี้จำเป็นต้องจองที่นั่งล่วงหน้า โปรดทำการจองก่อนใช้บริการ
· ตั๋วในแต่ละส่วนสามารถใช้ขึ้นรถได้เพียงครั้งเดียว
· ตั๋วในแต่ละส่วนจะถูกเก็บไปเมื่อลงรถบัส จึงไม่สามารถลงรถป้ายระหว่างทางได้ ยกเว้นฮิรายุออนเซ็นและชิราคาว่าโกะเท่านั้นที่อนุญาตให้ลงกลางทาง
· หากท่านลงรถกลางทางนอกเหนือจากป้ายที่กำหนดไว้ ตั๋วในส่วนนั้นจะไม่สามารถใช้งานได้อีก
· พาสนี้สามารถใช้เริ่มเดินทางจากฝั่งคานาซาวะ/โทยามะไปสิ้นสุดที่มัตสึโมโต้ หรือจะเริ่มใช้งานจากฝั่งมัตสึโมโต้ไปสิ้นสุดที่ฝั่งคานาซาวะ/โทยามะก็ได้
· ทางบริษัทไม่สามารถคืนเงินค่าตั๋วที่เริ่มใช้งานไปแล้ว
Tips! พิเศษสำหรับผู้ที่มี JR Hokuriku Arch Pass สามารถซื้อพาส Three-Star Ticket ได้ในราคาที่ถูกลง เรียกว่า “Three-Star Option Ticket” เริ่มวางขายตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 25 มีนาคม 2020
รวมตารางเวลารถบัส
รถบัสสายมัตสึโมโต้ – ฮิรายุออนเซ็น – ทาคายามะ >
รถบัสสายทาคายามะ – ชิราคาว่าโกะ >
รถบัสสายทาคายามะ – ชิราคาว่าโกะ – คานาซาวะ > (จำเป็นต้องจองที่นั่งล่วงหน้า สามารถจองที่นั่งได้ที่ Hokutetsu Kanazawa Ekimae Center และ Takayama Bus Center)
รถบัสสายทาคายามะ – ชิราคาว่าโกะ – โทยามะ > (จำเป็นต้องจองที่นั่งล่วงหน้า สามารถจองที่นั่งได้ที่ Toyama Chitetsu Ticket Center และ Takayama Bus Center)