นากาโนะ

เมืองแห่งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและธรรมชาติที่งดงาม

เที่ยวชมเมืองที่เต็มไปด้วยวัดและศาลเจ้า ก่อนเดินตามรอยเท้าซามูไรไปค้นหาร่องรอยประวัติศาสตร์ในอดีต

เมืองนากาโนะเต็มไปธรรมชาติสวยงาม ความเชื่อทางจิตวิญญาณ และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ย้อนเวลากลับไปสู่ยุคโบราณ สามารถเดินทางไปไหว้พระที่วัดเซ็นโคจิ ศูนย์กลางทางจิตใจของชาวเมือง เดินเที่ยวในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ท่ามกลางธรรมชาติที่โทะกากุชิ หรือจะไปสำรวจร่องรอยประวัติศาสตร์ยุคซามูไรที่มัตสึชิโระ มาเที่ยวนากาโนะสิ แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง!

แผนที่แนะนำสถานที่ตั้ง

นากาโนะ
โทะกากุชิ
มัตสึชิโระ

นากาโนะ

โทะกากุชิ

มัตสึชิโระ

จุดท่องเที่ยวน่าสนใจ

See detailed map

ⓒ善光寺
01วัดเซ็นโคจิ
วัดเซ็นโคจิ (Zenkoji Temple) มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,400 ปี ภายในมีพระประธานคือพระอมิตาภะพุทธตถาคต ซึ่งถูกเก็บไว้ไม่ให้ใครได้เห็น กล่าวกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น วัดแห่งนี้เป็นวัดที่ไม่มีนิกาย ต้อนรับคนทุกเพศ ทุกนิกาย ตั้งแต่โบราณกล่าวกันว่า "ครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องไปไหว้พระที่วัดเซ็นโคจิให้ได้" ตัวพระอุโบสถสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1707 และได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติแห่งชาติ เพราะเป็นตัวแทนสถาปัตยกรรมแบบพุทธในสมัยเอโดะอันทรงคุณค่า นอกจากนี้ยังสามารถเดินลอดผ่านอุโมงค์มืดใต้อุโบสถเพื่อค้นหา "กุญแจสวรรค์" ซึ่งเชื่อว่าหากใครได้สัมผัสก็จะสามารถไปสวรรค์ได้
02วัดเซะซนอิน
วัดเซะซนอิน (Seson-in Shakado Temple) เป็น1 ใน 25 วัดภายใต้การดูแลของวัดไดคันจิน และยังได้ถูกใช้เป็นที่พักแรมสำหรับผู้ที่มาแสวงบุญที่วัดเซ็นโคจิ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางปรินิพพาน มีความยาว 164 ซ.ม. เป็นพระพุทธรูปขนาดเท่าคนจริงเพียงองค์เดียวในญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานปรากฏเกี่ยวกับประวัติการสร้างวัดแห่งนี้ แต่ตัวพระพุทธรูปคาดว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยคามะคุระ (ค.ศ. 1185 -1333) มีค่าควรแก่การแวะไปกราบไหว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครได้ไปวัดเซ็นโคจิ
03ถนนนากามิเซะ
ถนนนากามิเซะ (Nakamise) เป็นถนนปูด้วยก้อนหินโดยเริ่มตั้งแต่ประตูกั้นอาณาเขตของวัดเซ็นโคจิ เรื่อยไปจนถึงพระอุโบสถ ถนนเส้นนี้กล่าวกันว่ามีหินปูทั้งหมด 7,777 แผ่น ตลอดเวลาอันยาวนานได้ถูกใช้เป็นทางผ่านของเหล่านักจาริกแสวงบุญทั้งหลายที่เดินทางมาที่วัดเซ็นโคจิตั้งแต่กลางสมัยเอโดะ นอกจากนี้ยังได้รับเลือกให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของจังหวัดด้วย ตลอด 2 ข้างทางของถนนโบราณแห่งนี้เรียงรายไปด้วยร้านอาหารที่ขายของขึ้นชื่อของนากาโนะ วัดสำหรับพักแรม นอกจากนี้สามารถแวะหาซื้อของฝากได้จากที่นี่ด้วย
Daikanjin Temple
04ประสบการณ์พักแรมในวัด
รอบๆวัดเซ็นโคจิมีชุคุโบ (Shukubo) หรือวัดที่สามารถใช้พักแรมได้มากถึง 39 แห่ง ทุกวัดมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีความพิเศษและบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป นอกจากการพักแรมแล้ว ยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย โดยที่วัดบางแห่งไม่จำเป็นต้องพักแรมก็สามารถร่วมทำกิจกรรมได้ด้วย เช่น การนั่งสมาธิแบบญี่ปุ่น การเขียนคัดลอกพระสูตร รับประทานอาหารมังสวิรัติ ทำลูกประคำ เป็นต้น สำหรับใครที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมอย่างแท้จริง ก็นับว่าเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย
05เวิร์กช็อปงานฝีมือ
แทนที่จะซื้อของฝาก เปลี่ยนเป็นลองประดิษฐ์ของฝากที่เก็บเอาความทรงจำเกี่ยวนากาโนะด้วยตนเองไหม? ใกล้ๆกับวัดเซ็นโคจิและถนนนากามิเซะมีเวิร์คช็อปหลายร้านให้ได้ลองประดิษฐ์งานฝีมือของญี่ปุ่น เช่น ร้อยลูกประคำ ประดิษฐ์กล้องคาไลโดสโคป (กล้องสลับลาย) และเลือกกลิ่นทำถุงเครื่องหอม เป็นต้น โดยสามารถเลือกสีสัน ลวดลายและกลิ่นได้ตามใจชอบ แม้จะเป็นวันที่ฝนตกก็สามารถสนุกกับกิจกรรมเหล่านี้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
06นินจาไดมอน
นินจาไดมอน (Ninja Daimon) เป็นสวนสนุกธีมนินจาขนาดเล็ก ซึ่งตัวอาคารรีโนเวทมาจากบ้านเก่าตั้งแต่สมัยเมจิ นินจาไดมอนตั้งอยู่ข้างๆถนนนากามิเซะใกล้กับวัดเซ็นโคจิ เด็กๆหรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่ที่มีหัวใจเป็นเด็กสามารถสนุกกับการฝึกทักษะการต่อสู้ของนินจา เช่นการปาดาวกระจาย เป่าลูกดอก นอกจากนี้ยังมีสินค้าและอาหารเครื่องดื่มเกี่ยวกับนินจามากมาย ใครที่ตั้งใจไปวัดเซ็นโคจิ แนะนำให้แวะมาที่นินจาไดมอนด้วย

See detailed map

01ทางเดินป่าสนโบราณ
จากป้ายรถบัสเดินไปศาลเจ้าโทะกากุชิโอะคุฉะเป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร กึ่งกลางระหว่างทางจะพบกับประตูซุยชินมง (Zuishinmon) ที่ทาด้วยสีแดง ถัดจากประตูนั้นไปคือทางเดินที่สองข้างทางเรียงรายไปด้วยต้นสนซีดาร์โบราณอายุกว่า 400 ปี ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นอนุสาวรีย์ทางธรรมชาติ ความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนแห่งเทพเจ้านี้ยังคงบรรยากาศเดิมมาจนถึงปัจจุบัน ในช่วงต้นของฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ พระอาทิตย์จะลอยขึ้นสูงทำมุมตรงกับทางเดิน เกิดเป็นภาพที่สวยงามน่าพิศวงเป็นอย่างมาก
02พิพิธภัณฑ์นินจา
พิพิธภัณฑ์นินจาแห่งนี้ได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยว 3 แห่งเข้าด้วยกัน ที่แรกคือพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ที่ชาวบ้านในโทะกากุชิเคยใช้ในสมัยก่อนกว่า 2,000 ชิ้น ข้างๆกันก็คือพิพิธภัณฑ์นินจาที่รวบรวมอาวุธชนิดต่างๆ รูปภาพอธิบายกลวิธีการต่อสู้ของนินจา และสุดท้ายก็คือคฤหาสน์นินจาทริคเฮ้าส์ ภายในเป็นเขาวงกตและเต็มไปด้วยทางลับซับซ้อนที่ต้องหาทางออกเองให้ได้ แม้จะดูว่าเป็นสถานที่สำหรับเด็กเล่น แต่รับรองว่าแม้ผู้ใหญ่ก็สามารถสนุกจนลืมเวลาได้อย่างแน่นอน
03ศาลเจ้าโอะคุฉะ
ตามตำนานปรัมปราของญี่ปุ่น ครั้งหนึ่งเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ "อามะเทะระซึ" ได้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในถ้ำและเอาหินปิดปากทางไว้ ทำให้โลกมืดมิดไปชั่วขณะ แต่ก็ได้เทพแห่งพละกำลัง "อามะโนะทะจิคาระโอะ" มาช่วยเปิดปากถ้ำ และโยนหินไปไกลถึงโทะกากุชิ ด้วยเหตุนี้เทพอามะโนะทะจิคาระโอะจึงได้ลงมาสถิตที่ศาลเจ้าโอะคุฉะ (Okusha) ที่ตีนเขาโทะกากุชิ ซึ่งเป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าทั้ง 5 แห่งในโทะกากุชิ และจะบันดาลให้พรในเรื่องโชค ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา บันดาลให้พืชผลมีความอุดมสมบูรณ์ และมีชัยชนะในการแข่งขันกีฬา
04ศาลเจ้าคุซุริวฉะ
ศาลเจ้าคุซุริวฉะ (Kuzuryusha) ตั้งอยู่ข้างๆศาลเจ้าโอะคุฉะ เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่และมีความสำคัญมากอีกแห่ง เพราะเป็นที่สถิตของเทพมังกรหรืองู 9 หัว ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่คอยปกปักษ์โทะกากุชิมาตั้งแต่ครั้งโบราณ ถึงแม้ว่าจะไม่ทราบว่ามีประวัติความเป็นมาที่แน่นอน แต่ก็กล่าวว่าเป็นที่สถิตของเทพเจ้าที่มาตั้งแต่ก่อนที่เทพอามะโนะทะจิคาระโอะจะลงมาสถิตที่ศาลเจ้าโอะคุฉะเสียอีก เนื่องจากเป็นเทพที่มีอำนาจเหนือน้ำ จึงกล่าวว่าเป็นเทพที่บันดาลให้ฝนตก และยังให้พรเรื่องคู่ครองและป้องกันฝันผุด้วย
05ศาลเจ้าโฮโคฉะ
ท่ามกลางต้นสนซีดาร์และขั้นบันไดที่ยาวกว่า 270 ขั้น บนสุดคือศาลเจ้าโฮโคฉะ (Hokosha) ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงยุคที่พระพุทธศาสนาและความเชื่อแบบชินโตในญี่ปุ่นถูกรวมเข้าด้วยกัน และเป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นในยุคปลายเอโดะ มีความเก่าที่สุดในทั้ง 5 แห่ง นอกจากนี้ประติมากรรมแกะสลักยังมีความสวยงามเป็นพิเศษ เชื่อว่าเป็นฝีมือการสลักของนักแกะสลักคิตามุระ คิโยะมัตสึ เทพเจ้าที่สถิตคือเทพอาเมะโนะอุวะฮารุ ที่ให้พรบันดาลให้ครอบครัวมีแต่ความร่มเย็น และปกป้องคุ้มครองผู้หญิงและเด็กๆเป็นพิเศษ
06ศาลเจ้าฮิโนะมิโคะฉะ
ศาลเจ้าฮิโนะมิโคะฉะ (Hinomikosha) สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1098 มีเทพ "อามะโนะอุซุเมะ" เทพเจ้าผู้ซึ่งทำหน้าที่ร่ายรำหน้าปากถ้ำเพื่อล่อให้เทพอามะเทะระที่ซ่อนตัวอยู่ออกมา พร้อมด้วยเทพองค์อื่นๆอีก 3 องค์สถิตอยู่ แม้กระทั่งในยุคที่ศาสนาพุทธและความเชื่อดั้งเดิมแบบชินโตยังถูกรวบเข้าด้วยกัน ศาลเจ้าแห่งนี้ก็ยังคงความเป็นศาลเจ้าชินโตอย่างแท้จริง ไม่ได้ถูกอิทธิพลของศาสนาพุทธเข้ามาผสมผสานอยู่เลย นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่ซึ่งการร่ายรำบูชาเทพเจ้าคางุระได้ถูกสอนโดยนักบวชของศาลเจ้าเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน กล่าวกันว่าเทพเจ้าที่สถิตที่นี่เป็นเทพเจ้าแห่งการแสดง ให้พรเรื่องคู่ครองและป้องกันอัคคีภัย
07ศาลเจ้าจูฉะ
ศาลเจ้าจูฉะ (Chusha) เป็นที่สถิตของเทพเจ้าแห่งความรู้ ผู้ซึ่งช่วยวางแผนให้จัดการร่ายรำคางุระเพื่อล่อให้เทพอามะเทะระซึออกมาจากถ้ำ บริเวณใกล้ๆศาลเจ้ามีต้นสนยักษ์ 3 ต้น อายุกว่า 800 ปี บางครั้งสามารถชมการแสดงหรือการซ้อมร่ายรำคางุระซึ่งจัดขึ้นที่นี่ได้ด้วย เชื่อกันว่าหากได้สักการะเทพเจ้าที่ศาลเจ้าแห่งนี้ จะได้รับพรให้ประสบความสำเร็จในเรื่องการเรียน การค้าขาย ปัดเป่าโชคร้าย นำพาโชคดีและบันดาลให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข
08บึงคากามิ
บึงคากามิ (Kagami Pond) มีความหมายว่า "บึงกระจก" เป็นบึงเงียบสงบ ตั้งอยู่ที่ตีนเขาของเทือกเขาโทะกากุชิ ในวันที่สภาพอากาศปลอดโปร่ง สามารถมองเห็นเทือกเขาโทะกากุชิสะท้อนลงบนผิวน้ำเหมือนกับความหมายของชื่อบึง ประมาณต้นถึงกลางเดือนตุลาคม ต้นไม้รอบๆบึงก็จะเปลี่ยนสีเป็นสีแดงบ้างสีเหลืองบ้าง ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวและผู้ที่ชอบการถ่ายภาพนิยมเดินทางมากัน โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงและตอนเช้าของวันที่ไม่มีลม สามารถเดินจากประตูซุยชินมงมาได้โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที

See detailed map

01ซากปราสาทมัตสึชิโระ
ปราสาทมัตสึชิโระถูกสร้างขึ้นในยุคเซ็นโกะคุ ซึ่งประเทศญี่ปุ่นยังเต็มไปด้วยสงครามแบ่งเป็นแว่นแคว้นต่างๆ โดยคำสั่งของ"ทาเคดะ ชินเก็น" เพื่อเตรียมพร้อมรับการโจมตีของ"อุเอะสึงิ เค็นชิน" ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นโดยใช้ประโยชน์จากสภาพภูมิประเทศ โดยให้แม่น้ำจิคุมะเป็นปราการธรรมชาติ หลังจากที่เจ้าครองแคว้นมัตสึชิโระ "ซานาดะ โนะบุยุกิ" ได้ย้ายเข้ามาอยู่ก็ได้ปกครองสืบต่อกันมาอีกกว่า 10 รุ่น ประมาณกลางเดือนเมษายนของทุกปี จะมีนักท่องเที่ยวมากมายมาเยี่ยมเยือนเพื่อชมซากุระที่บานสะพรั่งที่นี่
02ศูนย์บัญชาการลับใต้ดินมัตสึชิโระ
ก่อนจะสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้ทำการขุดเข้าไปในภูเขาไมซุรุ ภูเขามินาคามิ และภูเขาโซซันอย่างลับๆ เพื่อสร้างเป็นกองบัญชาการใต้ดินขึ้น โดยมีแผนการที่จะย้ายศูนย์บัญชาการทหารและที่ทำการแต่ละกระทรวงของรัฐบาลมาที่นี่ เพื่อใช้เป็นฐานที่มั่นสุดท้ายในการต่อสู้บนแผ่นดินใหญ่ เส้นทางภายในมีความยาวทั้งหมด 5,853 เมตร ปัจจุบันเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมได้เป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร เป็นมรดกสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับสงครามที่ยังหลงเหลือมาจนปัจจุบัน
03โรงเรียนบุนบุ
โรงเรียนบุนบุ (Bunbu School) ก่อตั้งเมื่อปี 1855 ในช่วงปลายยุคเอโดะ ที่นี่มีการสอนทั้งวิชาการ วรรณกรรม ศิลปะการต่อสู้และวิชาการทหารแบบตะวันตก ภายในโรงเรียนมีทั้งห้องเรียนสำหรับวิชาทั่วไป มีโรงยิมสำหรับฝึกดาบและการต่อสู้ มีห้องสมุดสำหรับจัดเก็บเอกสารต่างๆ เปรียบเทียบดูก็มีทั้งความคล้ายและต่างกับโรงเรียนในยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังมีการสอนวิชาการแพทย์ตะวันตกแทนคำสอนของลัทธิขงจื้อ ถือว่าเป็นโรงเรียนที่มีการเรียนการสอนแบบหัวก้าวหน้ามากในยุคนั้น
04วัดโชโคะคุจิ
วัดโชโคะคุจิ (Chokokuji Temple) เป็นวัดประจำตระกูลซานาดะ ไดเมียวแคว้นมัตสึชิโระ มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่หลังคาซึ่งมีตราประจำตระกูลซานาดะรูปเหรียญ 6 อัน (rokumonsen) นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสุสานของคนในตระกูลซานาดะ โดยเฉพาะสุสานของซานาดะ โนะบุยุคินั้นมีการแกะสลักเป็นรูปนกกระเรียนบนหลังคาหน้าจั่วซึ่งมีความสวยงามเป็นพิเศษ จึงได้รับเลือกให้เป็นสมบัติที่มีค่าทางวัฒนธรรม ตำนานเล่าว่านกกระเรียนนั้นหลุดออกมาจากหลังคา และบินไปกินข้าวในไร่นาทุกคืน ส่วนภาพวาดบนเพดานนั้นเป็นผลงานของจิตรกรชื่อดัง "คะโน ทันยู"
05พิพิธภัณฑ์หอสมบัติซานาดะ
พิพิธภัณฑ์หอสมบัติซานาดะ (Sanada Treasure Museum) จัดแสดงเครื่องใช้และอาวุธที่ไดเมียว (เจ้าครองแคว้น) ในสมัยก่อนใช้ เช่น ชุดเกราะ เฟอร์นิเจอร์ ภาพวาด เอกสารและงานเขียนที่ถูกส่งมอบต่อๆกันมาจนถึงหัวหน้าตระกูลซานาดะรุ่นที่ 12 ที่นี่มีของจัดแสดงมากกว่า 50,000 ชิ้น ในนี้มีวัตถุที่ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติที่มีค่าทางวัฒนธรรมของชาติด้วย ได้แก่ ดาบซามูไร "โอเอะโนะโอะโตะจิ" เสื้อเกราะของซานาดะ ยุคิมุระ "โนโบะริฮาชิโกะ โนะ กุโซะคุ" จดหมายที่เขียนโดยทาเคดะ ชินเง็น, ฮิเดโยชิ โทโยโทมิ, มิสึนาริ อิชิดะ, โทะกุงาวะ อิเอยาสึ เป็นต้น
06บ้านพ่อค้าเทะรามาจิ
บ้านพ่อค้าเทะรามาจิ (Teramachi Merchant Residence) ในอดีตทำการค้าโดยเปิดเป็นโรงรับจำนำตั้งแต่ปลายยุคเอโดะจนถึงต้นยุคโชวะ ภายในอาณาเขตมีสวนญี่ปุ่นและบึงที่มีทางน้ำไหลเชื่อมต่อจากภายนอกโดยตรง สถานที่แห่งนี้แสดงถึงสภาพความเป็นอยู่ของพ่อค้าผู้มั่งคั่งในยุคดังกล่าว จึงได้รับเลือกให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของเมืองนากาโนะ นอกจากนี้ที่นี่ยังเปิดเป็นร้านอาหารโดยมีเชฟท้องถิ่นปรุงอาหารที่ทำจากผลผลิตในท้องถิ่น สามารถรับประทานอาหารในบรรยากาศบ้านโบราณได้ ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าสัมผัสอีกอย่างเมื่อมาที่นี่
07คฤหาสน์ตระกูลซานาดะ
ในช่วงปลายยุคเอโดะ ซานาดะ ยุคิโนะริ ไดเมียวคนที่ 9 ของแคว้นมัตสึชิโระได้สร้างบ้านหลังนี้ขึ้นเพื่อมอบให้แม่ยายเพื่ออาศัยในช่วงบั่นปลายของชีวิต ภายหลังจึงได้กลายมาเป็นที่อยู่อาศัยของตนเองหลังเกษียณ ตั้งแต่ยุคเมจิเป็นต้นมา คฤหาสน์หลังนี้ได้ถูกใช้เป็นที่พักของคนในตระกูลซานาดะ ปัจจุบันนอกจากเรือนหลัก ประตูทางเข้าด้านหน้าและอาคารโกดังอีก 7 แห่ง ยังมีสวนญี่ปุ่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคฤหาสน์หลงเหลือมาจนถึงปัจจุบันโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ถือเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่แสดงความเป็นอยู่ของซามูไรในอดีตได้เป็นอย่างดี

เส้นทางการเดินทางเส้นทางการเดินทางเส้นทางการเดินทาง

ดูตารางเวลา / จองตั๋วรถบัส

2
อิเคะบุคุโระ
นากาโนะ
3
สนามบินนาริตะ
/ โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท
นากาโนะ
5
โอซาก้า / เกียวโต
นากาโนะ
7
นากาโนะ
โอกิซาว่า
8
นากาโนะ
คามิโคจิ
9
นากาโนะ
มัตสึโมโต้
10
นากาโนะ
วัดเซ็นโคจิ
11
นากาโนะ
โทะกากุชิ
12
นากาโนะ
มัตสึชิโระ

แผนที่ป้ายรถบัสสถานีนากาโนะ

รถบัสที่ไปวัดเซ็นโคจิ (เบอร์ 10, 11, 16 และ 17) ออกจากป้ายรถบัสหมายเลข 1 หน้าสถานีนากาโนะ ทางออก Zenkoji
รถบัสที่ไปโทะกากุชิ (เบอร์ 70) ออกจากป้ายรถบัสหมายเลข 7 ตรงข้ามสถานีนากาโนะ ทางออก Zenkoji ในฤดูหนาวตั้งแต่กลางธ.ค. - มี.ค. รถบัสจะไปไม่ถึงป้ายรถบัส Togakushi Okusha ในช่วงดังกล่าว หากต้องการเดินทางไปศาลเจ้าโอะคุฉะหรือทางเดินต้นสนโบราณ ให้ลงที่ป้าย Togakushi Chusha
รถบัสที่ไปมัตสึชิโระ (เบอร์ 30) ออกจากป้ายรถบัสหมายเลข 3 หน้าสถานีนากาโนะ ทางออก Zenkoji

พาสรถบัสแนะนำ

Coming Soon!

Q&A

จากสถานีนากาโนะไปวัดเซ็นโคจิใช้เวลาเท่าไหร่?

วัดเซ็นโคจิอยู่ห่างจากสถานีนากาโนะทางออก Zenkoji ประมาณ 2 ก.ม. ใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาที และมีรถบัสออกจากหน้าสถานีทุกๆ 5-10 นาที

ช่วงที่ชมซากุระในตัวเมืองนากาโนะคือช่วงเดือนอะไร?

ช่วงชมซากุระในตัวเมืองนากาโนะอยู่ที่ช่วงประมาณกลาง-ปลายเดือนเมษายน

ช่วงที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีในตัวเมืองนากาโนะคือช่วงเดือนอะไร?

ช่วงชมใบไม้เปลี่ยนสีในตัวเมืองนากาโนะ เช่นที่วัดเซซุยจิ (Seisuiji Temple) คือช่วงประมาณต้นเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงกลางหรือปลายเดือนพฤศจิกายน

มีไกด์นำเที่ยวภาษาอังกฤษในนากาโนะหรือไม่?

มีไกด์อาสาสมัครสามารถพูดภาษาอังกฤษและจีนได้ สามารถติดต่อ SGG Club "Bonsho no Kai" เพื่อรีเควสต์ไกด์ให้นำเที่ยวได้ที่นี่ คลิก

จากป้ายรถบัส Togakushi Okusha ใช้เวลาเดินไปประตูซุยชินมงและศาลเจ้าโอะคุฉะนานเท่าไหร่?

จากป้ายรถบัสไปประตูซุยชินมงใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที และจากนั้นก็ใช้เวลาอีก 20 นาทีในการเดินต่อไปศาลเจ้าโอะคุฉะ (จากป้ายรถบัสไปศาลเจ้าโอะคุฉะใช้เวลา 40 นาที)

ในฤดูหนาวสามารถไปทางเดินต้นสนและศาลเจ้าโอะคุฉะได้หรือเปล่า?

ในฤดูหนาวก็สามารถไปได้ แต่บางครั้งก็ไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากปริมาณหิมะที่สูง มนฤดูหนาวจำเป็นที่ต้องเตรียมรองเท้าที่สามารถเดินบนหิมะได้ และเนื่องจากรถบัสจะไปไม่ถึงป้าย Togakushi Okusha กรุณาลงที่ป้าย Togakushi Chusha แทน

ในโทะกากุชิมีร้านอาหารหรือไม่?

ภายในโทะกากุชิมีร้านโซบะอยู่หลายร้านโดยเฉพาะบริเวณใกล้ๆศาลเจ้าจูฉะ นอกจากนี้ยังมีร้านโซบะใกล้ๆป้ายรถบัส Togakushi Okusha อีก 2 ร้าน

พิพิธภัณฑ์นินจา คฤหาสน์นินจาทริกเฮ้าส์และหมู่บ้านนินจาเด็กเปิดให้บริการตลอดทั้งปีหรือไม่?

ศาลเจ้าภายในโทะกากุชิเปิดให้เข้าชมได้ตลอดทั้งปี แต่พิพิธภัณฑ์นินจา คฤหาสน์นินจาทริกเฮ้าส์และหมู่บ้านนินจาเด็กจะปิดให้บริการช่วงฤดูหนาวตั้งแต่ประมาณเดือนธันวาคมจนถึงเดือนมีนาคมเนื่องจากปริมาณหิมะที่ตกสะสม วันเปิดทำการที่แน่นอนโปรดตรวจสอบกับแต่ละสถานที่โดยตรง

ช่วงที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โทะกากุชิคือช่วงเดือนอะไร?

ประมาณกลาง - ปลายเดือนตุลาคม

ที่มัตสึชิโระมีจักรยานให้เช่าหรือไม่?

มีให้เช่า 3 แห่ง
1. Matsushiro Tourist Information Center
・จักรยานผู้ใหญ่ 18 คัน 500 เยน/วัน (9:00 - 16:00 น.)
・จักรยานเด็ก 3 คัน 500 เยน/วัน (9:00 - 16:00 น.)
2. Royal Hotel Nagano
・จักรยานไฟฟ้า 3 คัน 1,500 เยน/วัน (2 ช.ม. 500 เยน)
3. Matsushiro Machiaruki Center *ปิดทุกวันอังคารและวันหยุดปีใหม่
・จักรยานธรรมดา 3 คัน 800 เยน/วัน (ครึ่งวัน 400 เยน)
・จักรยานไฟฟ้า 3 คัน 1,200 เยน/วัน (ครึ่งวัน 600 เยน)

มัตสึชิโระใช้เวลาในการเที่ยวชมนานเท่าไหร่?

ในการเดินเที่ยวชมสถานที่ต่างในเมืองมัตสึชิโระ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง (ครึ่งวัน) แต่ถ้าเช่าจักรยานปั่นจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

ศูนย์บัญชาการลับใต้ดินมัตสึชิโระไปยังไง?

ศูนย์บัญชาการลับใต้ดินมัตสึชิโระอยู่ห่างจากศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวเป็นระยะทางประมาณ 1.2 ก.ม. เดินไปใช้เวลา 20 นาที ปั่นจักรยานไปใช้เวลาประมาณ 5 นาที ไม่ต้องเสียค่าเข้าชม ก่อนเข้าไปกรุณาเซ็นชื่อที่ออฟฟิศผู้ดูแลด้านหน้าทางเข้า และใส่หมวกนิรภัยที่เตรียมไว้ให้ก่อนเข้าไป

ช่วงที่ชมซากุระที่มัตสึชิโระคือช่วงเดือนอะไร?

ช่วงชมซากุระบานที่ซากปราสาทมัตสึชิโระคือช่วงประมาณกลางเดือนเมษายน

ช่วงที่ชมดอกต้นแอปปริคอตบานที่มัตสึชิโระฮิกาชิโจ (Matsushiro HIgashijo) คือช่วงเดือนอะไร?

ประมาณต้น-กลางเดือนเมษายน

มีไกด์นำเที่ยวภาษาอังกฤษในมัตสึชิโระหรือไม่?

มีไกด์อาสาสมัครสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ สามารถรีเควสต์ขอไกด์ได้ที่ Matsushiro Volunteer Guide Association