แนะนำที่เที่ยวหน้าหนาวในนากาโนะ (ฉบับคนไม่เล่นสกี)

23 ม.ค. 2023

หน้าหนาวที่นากาโนะ นอกจากสกีแล้วยังกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวอะไรน่าไปน่าทำบ้าง แอดมินรวบรวมมาให้ในบทความนี้แล้ว ไปดูกันเลยค่ะ!

เนื้อหาบทความ

  1. 1. อิวาตาเกะเมาเท่นรีสอร์ท (Iwatake Mountain Resort)
  2. 2. โทะกากุชิ (Togakushi)
  3. 3. สึกาอิเคะ Snow Wow! (Tsugaike Snow Wow!)
  4. 4. โนซาวะออนเซ็น (Nozawa Onsen)
  5. 5. ปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle)
  6. 6. ทะเลสาบโนะจิริ (Lake Nojiri)
  7. 7. คามิโคจิ (Kamikochi)
  8. 8. ที่ราบสูงโนริคุระโคเก็ง (Norikura Kogen)
  9. 9. ชิราโฮเนะออนเซ็น (Shirahone Onsen)

อิวาตาเกะเมาเท่นรีสอร์ท (Iwatake Mountain Resort)

อิวาตาเกะเมาเท่นรีสอร์ท (Iwatake Mountain Resort) จุดชมวิวหน้าหนาวของเจแปนแอลป์ที่สวยที่สุดในฮาคุบะ อยู่ด้านบนสุดของลานสกี Iwatake Snow Field สามารถนั่งกอนโดล่าขึ้นไปได้ง่ายๆ นอกจากวิวสวยๆ ยังมีชิงช้าวิวแจ่มๆให้นั่งด้วย ใครที่พาเด็กขึ้นไปก็มีอุปกรณ์เล่นหิมะและลานหิมะให้เด็กๆเล่นด้วย

 

ช่วงเที่ยวหน้าหนาว: ปลายเดือนธันวาคม-เดือนมีนาคม

วิธีการเดินทาง: วิธีการเดินทางที่สะดวกสุดคือเริ่มต้นจากสถานี JR Nagano นั่งรถบัสสาย Nagano-Hakuba ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีก็ถึง(ลงที่ป้าย Hakuba Iwatake Mountain Resort) รอบรถที่ไปถึงอิวาตาเกะเมาเท่นรีสอร์ทเลยค่อนข้างน้อย สามารถนั่งรถบัสไปลงที่สถานี JR Hakuba หรือท่ารถบัสฮาคุบะฮัปโป (Hakuba Happo Bus Terminal) แล้วต่อรถแท็กซี่ไปจะประหยัดเวลามากกว่า

 

ดูแผนที่ Google Map >

ดูตารางรถบัสไปฮาคุบะทั้งหมด >  

โทะกากุชิ (Togakushi)

ศาลเจ้าโทะกากุชิ (Togakushi Shrine) ศาลเจ้าโทะกากุชิเป็นหนึ่งในศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฎอยู่ในตำนานเทพเจ้าโบราณของญี่ปุ่น ไฮไลท์ของโทะกากุชิในฤดูหนาวก็คือ ทางเดินต้นสนโบราณที่เรียงรายอยู่สองข้างทางเดินไปศาลเจ้าโทะกากุชิชั้นใน (Togakushi Okusha) ซึ่งทางเดินนี้ในฤดูหนาวจะปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ระหว่างทางจะเจอกับประตูซุยชินมง (Zuishinmon) สีแดงที่มีเทวบาลคอยรักษาประตูไว้ บรรยากาศที่สงบ ไม่จอแจไปด้วยผู้คน ทำให้ยิ่งรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่แห่งนี้ยิ่งขึ้น

 

ช่วงเที่ยวหน้าหนาว: ปลายเดือนธันวาคม-เดือนมีนาคม

วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถบัสสาย 73 หน้าสถานีนากาโนะที่ป้ายรถบัสหมายเลข 7 (อยู่หน้า Alpico Kotsu Ticket Office) ลงที่ป้าย Togakushi Okusha จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 20 นาทีก็ถึงประตูซุยชินมง (ศาลเจ้าโทะกากุชิชั้นในใช้เวลาประมาณ 40 นาที และถ้ามีหิมะตกหนัก อาจจะเดินไปไม่ได้) ส่วนรถบัสสาย 70 สามารถไปได้ถึงแค่ Togakushi Chusha

 

ดูแผนที่ Google Map >

ดูตารางรถบัสไปจากนากาโนะไปโทะกากุชิ > 

สึกาอิเคะ Snow Wow! (Tsugaike Snow Wow!)

ที่นี่แตกต่างลานสกีแห่งอื่นในฮาคุบะ เพราะมีแอเรียสำหรับเล่นหิมะโดยเฉพาะ มีกิจกรรมมากมายหลายอย่างให้เล่น ทั้งแบบธรรมดาๆ เช่น Snow Sleigh หรือ Snow Buggy จนไปถึงกิจกรรมมีความแปลกใหม่ ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนก็มี เช่น Snow Scoot, Snow Racer, Snow Drive, Snow Feet, Snow Skate เป็นต้น และที่ดูเหมือนจะมีความนิยมในหมู่เด็กๆที่สุดก็คือ เครื่องเล่น Amidasu ซึ่งเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ขึงอยู่บนอากาศ สามารถปีนป่ายกระโดดเล่นท่ามกลางวิวหิมะขาวโพลนได้ รับรองว่าไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สนุกแน่นอน อ้อ! ลืมบอกว่าที่นี่มีอุปกรณ์เช่น รองเท้าบูท หมวกกันน็อค ให้เช่าด้วย

 

ดูเว็บไซต์ Tsugaike Snow Wow! >

 

ช่วงเที่ยวหน้าหนาว: ประมาณปลายธันวาคม – มีนาคม (โปรดเช็ควันที่แน่นอนกับเว็บไซต์ทางการ) เปิดตั้งแต่ 10:00 – 15:00 น.

วิธีการเดินทาง: วิธีการเดินทางที่สะดวกสุดคือเริ่มต้นจากสถานี JR Nagano นั่งรถบัสสาย Nagano-Hakuba ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีก็ถึงโรปเวย์ Noah ที่จะพาขึ้นไป Tsugaike Snow Wow! (ลงที่ป้ายรถTsugaike Kogen)

 

ดูแผนที่ Google Map >

ดูตารางรถบัสไปจากนากาโนะไปฮาคุบะ > 

โนซาวะออนเซ็น (Nozawa Onsen)

โนซาวะออนเซ็น (Nozawa Onsen) เป็นที่รู้จักดีในหมู่นักเล่นสกีที่ชอบเดินทางมาเล่นสกีที่ญี่ปุ่น ดูแค่ชื่อก็รู้ว่านอกจากสกี ที่นี่ก็ยังเป็นแหล่งออนเซ็นธรรมชาติ เมืองออนเซ็นแห่งนี้มีขนาดพอไม่เล็ก ไม่ใหญ่ เหมาะกับการเดินเล่น จะเที่ยวแบบค้างคืนหรือไปเช้า-เย็นกลับก็ได้ ที่โนซะวะออนเซ็นมีบ่อออนเซ็นสาธารณะ (Soto-yu) 13 บ่อให้เข้าใช้ได้ฟรี  เมื่อมาโนซะวะออนเซ็น ก็ต้องแวะที่ “โอะกะมะ” (Ogama) ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำที่น้ำพุร้อนไหลออกมาก มีอุณหภูมิสูงกว่า 90-100 องศา ชาวบ้านและร้านค้ารอบๆต่างก็ใช้ออนเซ็นที่นี่ในการทำอาหาร เช่น ไข่ออนเซ็น ข้าวโพดต้ม และดังโงะถั่วแดงห่อใบไผ่

 

ช่วงเที่ยวหน้าหนาว: กลางเดือนธันวาคม-เดือนมีนาคม

วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถบัส Alpico หรือ Nagaden จากสถานีนากาโนะ ที่ป้ายรถบัสหมายเลข 24 มีรถออกทุกวันระหว่างกลางเดือนธันวาคม-เดือนมีนาคม ไปกลับวันละ 2 รอบ

 

ดูแผนที่ Google Map >

ดูตารางรถบัสไปจากนากาโนะไปโนซาวะออนเซ็น > 

ปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle)

ปกติในตัวเมืองมัตสึโมโต้จะไม่ค่อยมีหิมะตกเท่าไหร่ ปีหนึ่งจะมีหิมะตกหนักซัก 3-4 ครั้ง หากใครโชคดีได้มาเที่ยวตรงกับวันที่หิมะตกพอดีถือว่าโชคดี โดยเฉพาะที่ปราสาทมัตสึโมโต้ซึ่งจะสวยเป็นพิเศษ ด้วยสีดำของปราสาทตัดสีขาวโพลนของหิมะ

 

ช่วงเที่ยวหน้าหนาว: เดือนธันวาคม-เดือนมีนาคม

วิธีการเดินทาง: จากสถานี JR Matsumoto เดินไปใช้เวลาประมาณ 20 นาที หรือถ้าใครไม่อยากเดินก็สามารถนั่งรถบัส Town Sneaker สาย North ซึ่งจะออกเดินทางทุกๆ 30 นาทีในวันธรรมดาและทุกๆ 20 นาทีในวันเสาร์-อาทิตย์

 

ดูแผนที่ Google Map >

ตารางรถบัสชินจูกุ – มัตสึโมโต้ >  

ตารางรถบัสทาคายามะ – มัตสึโมโต้ >  

ดูตารางรถบัสไปมัตสึโมโต้ทั้งหมด >  

ดูตารางรถบัส Town Sneaker >  

ทะเลสาบโนะจิริ (Lake Nojiri)

ที่ทะเลสาบโนจิริ (Lake Nojiri) มีกิจกรรมให้ทำมากมาย โดยเฉพาะที่Guesthouse LAMP นอกจากที่พักก็ยังมีกิจกรรมให้ทำ เช่นนั่งห้องซาวน่าแบบนอร์ดิก เดินสโนว์ชูว์ เดินสกี (Cross Country Ski) เป็นต้น ซึ่งไม่ได้เพียงแต่เดินเฉยๆ แต่ยังมีขนมอาหารให้รับประทานตอนพักระหว่างเดินด้วย ได้บรรยากาศสุดๆ

 

ช่วงเที่ยวหน้าหนาว: เดือนธันวาคม-ต้นเดือนมีนาคม (ขึ้นอยู่กับสภาพหิมะของปีนั้นๆ)

วิธีการเดินทาง: จากสถานี JR Nagano นั่งรถไฟ Shinano Tetsudo สาย Kita-Shinano เป็นเวลาประมาณ 30 นาที มาลงที่สถานี Kurohime จากนั้นก็นั่งแท็กซี่ต่อมาอีกประมาณ 10 นาทีก็ถึง

 

ดูแผนที่ Google Map >

คามิโคจิ (Kamikochi)

ถึงแม้ว่าฤดูหนาวจะไม่ใช้ฤดูท่องเที่ยวคามิโคจิ ไม่มีรถบัสและโรงแรมให้บริการ ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไปเที่ยวคามิโคจิไม่ได้ วิธีที่จะเที่ยวคามิโคจิในฤดูหนาวมีเพียงทางเดียวคือต้องเดินสโนว์ชูว์เข้าไป โดยจำเป็นต้องมีไกด์เข้าไปด้วยเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับเรา นอกจากนี้ก็ต้องเตรียมเสื้อผ้าอุปกรณ์กันหนาว บูทสำหรับเดินบนหิมะไปด้วย หากไม่มีก็สามารถเช่ากับไกด์ได้ ส่วนใหญ่จะทัวร์สโนว์ชูว์ในคามิโคจิจะเป็นแบบครึ่งวัน (ไปถึงแค่บึงไทโช) หรือไม่ก็เต็มวัน (ไปถึงสะพานคัปปะ) ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความฟิตของร่างกายเราด้วย แนะนำไกด์พูดภาษาอังกฤษได้ที่ Guesthouse Raicho

 

ช่วงเที่ยวหน้าหนาว: ปลายเดือนธันวาคม-ต้นเดือนมีนาคม (ขึ้นอยู่กับสภาพหิมะของปีนั้น)

วิธีการเดินทาง: ถ้าจ้างไกด์จาก Guesthouse Raicho ก็จะนัดพบกันที่ที่พักและส่วนใหญ่ก็จะนอนพักที่นั้นเลยด้วย (เกสต์เฮ้าส์อยู่ที่ที่ราบสูงโนริคุระโคเก็ง) สามารถเดินทางโดยนั่งรถไฟสาย Kamikochi จากสถานี JR Matsumoto ไปลงที่สถานีชินชิมะชิมะ (Shin-Shimashima) จากนั้นก็ต่อรถบัสอีก 1 ชั่วโมงไปลงที่ที่ราบสูงโนะริคุระ (Norikura Kogen) ลงรถที่ป้าย N-29 Norikura Tourist Info Center เดินอีก 10 นาทีก็ถึงที่พัก

 

ดูแผนที่ Google Map >

ดูตารางรถบัสไปจากมัตสึโมโต้ไปโนริคุระ > 

 

อ่านเพิ่มเติมพาเดินสโนว์ชูในหน้าหนาวที่คามิโคจิ

ที่ราบสูงโนริคุระโคเก็ง (Norikura Kogen)

ไม่เพียงแต่ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเท่านั้น แอดมินยังอยากแนะนำโนริคุระโคเก็งในฤดูหนาวให้ทุกท่านได้รู้ด้วย นอกจากวิวธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังมีจุดชมวิวสวยๆมากมายให้ได้เดินสโนว์ชูว์กันด้วย โดยเฉพาะดาวเด่นของโนริคุระก็คือน้ำตกเซ็นโกโระ (Zengoro Falls) ที่จะจับตัวเป็นน้ำแข็งสีฟ้าในฤดูหนาว สามารถเช่าอุปกรณ์และจ้างไกด์ได้ที่ Guesthouse Raicho

 

ช่วงเที่ยวหน้าหนาว: ปลายเดือนธันวาคม-ต้นเดือนมีนาคม (ขึ้นอยู่กับสภาพหิมะของปีนั้น)

วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟสาย Kamikochi จากสถานี JR Matsumoto ไปลงที่สถานีชินชิมะชิมะ (Shin-Shimashima) จากนั้นก็ต่อรถบัสอีก 1 ชั่วโมงไปลงที่ที่ราบสูงโนะริคุระ (Norikura Kogen) ลงรถที่ป้าย N-29 Norikura Tourist Info Center เดินอีก 10 นาทีก็ถึง Guesthouse Raicho

 

ดูแผนที่ Google Map >

ดูตารางรถบัสไปจากมัตสึโมโต้ไปโนริคุระ > 

ชิราโฮเนะออนเซ็น (Shirahone Onsen)

ไหนๆมาเที่ยวญี่ปุ่นฤดูหนาวแล้ว จะแช่ออนเซ็นธรรมดาๆก็น่าเสียดาย แอดมินแนะนำให้หาเรียวกังที่มีออนเซ็นกลางแจ้งชมวิวหิมะสวยๆแช่ อย่างเช่นที่ชิราโฮเนะออนเซ็น ซึ่งมีความพิเศษเพราะตั้งอยู่ในหุบเขาลึก ห่างไกลจากตัวเมือง ทำให้สามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติและการแช่ออนเซ็นได้อย่างเต็มที่ ในฤดูหนาวที่นี่จะปกคลุมไปด้วยหิมะสวยงาม แต่หากใครที่ชอบความใหม่ทันสมัยก็อาจจะต้องผ่านจุดเช็คอินนี้ไป เพราะที่นี่เรียกว่าไกลปืนเที่ยงก็ได้ เพราะรอบข้างไม่มีอะไรเลยแม้แต่ร้านสะดวกซื้อ (แต่เรื่องความปลอดภัยไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ)

 

ช่วงเที่ยวหน้าหนาว: ปลายเดือนธันวาคม-กลางเดือนมีนาคม (ขึ้นอยู่กับสภาพหิมะของปีนั้น)

วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟสาย Kamikochi จากสถานี JR Matsumoto 30 นาทีไปลงที่สถานีชินชิมะชิมะ (Shin-Shimashima) จากนั้นก็ต่อรถบัสอีก 1 ชั่วโมง 20 นาทีไปลงที่ป้าย Shirahone Onsen ปกติทางที่พักจะมีรถมารับหลังเวลารถบัสมาถึง

 

ดูแผนที่ Google Map >

ดูตารางรถบัสไปจากมัตสึโมโต้ไปชิราโฮเนะออนเซ็น > 

จุดเช็คอินกินลมชมธรรมชาติในนากาโนะและเจแปนแอลป์
จุดเช็คอินชมใบไม้เปลี่ยนสี 9 แห่งในนากาโนะ

บทความที่คุณอาจสนใจ

ใครว่าคามิโคจิไปตอนฤดูหนาวไม่ได้ แอดมินจะพาไปเอง

ดูลิงแก้มแดงขนฟู ตัวกลมน่ารักแช่ออนเซ็น – สวนลิงจิโกะคุดานิ