สถานที่ชมซากุระที่ต้องไปให้ได้ในจังหวัดนากาโนะ 9 แห่ง (พร้อมวิธีการเดินทางและพยากรณ์ช่วงบานเต็มที่ปี 2023)

24 ม.ค. 2023

รวบรวมมาให้แล้วกับสถานที่ชมดอกซากุระในจังหวัดนากาโนะที่ห้ามพลาด พร้อมกับพยากรณ์ช่วงเวลาบานเต็มที่ของดอกซากุระแต่ละแห่ง ที่สำคัญมีวิธีบอกการเดินทางอย่างละเอียดให้ด้วย จะมีที่ไหนอย่างไรบ้าง ไปอ่านกันเลยค่ะ

เนื้อหาบทความ

  1. 1. สวนสาธารณะโออิเดะ (Oide Park)
  2. 2. ปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle)
  3. 3. ซากปราสาททาคาโตะ (Takato Castle)
  4. 4. วัดอันโยจิ (Anyo-ji Temple)
  5. 5. ซากปราสาทโคโมโระ (Komoro Castle Ruins)
  6. 6. สวนสาธารณะกะริว (Garyu Park)
  7. 7. สุสานโบราณโคโบยามะ (Koboyama Ancient Tomb)
  8. 8. ปราสาททาคาชิมะ (Takashima Castle)
  9. 9. ปราสาทอุเอดะ (Ueda Castle)

สวนสาธารณะโออิเดะ (Oide Park)

สวนสาธารณะโออิเดะ (Oide Park) เป็นสถานที่ชมซากุระลับๆแห่งแรกที่อยากแนะนำ จุดชมซากุระแห่งนี้ตั้งอยู่ในหมู่บ้านฮาคุบะ (Hakuba) ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีจำนวนซากุระมากมาย แต่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ เพราะสามารถชมได้ทั้งดอกซากุระสีชมพูขาว ดอกพีช แม่น้ำฮิเมะ (Hime) ที่ไหลพาดกลาง กับพระเอกก็คือเทือกเขาเจแปนแอลป์ที่มีหิมะปกคลุมที่ขาวโพลนเป็นฉากหลัง

 

ช่วงซากุระบาน: ปลายเดือนเมษายน – ต้นพฤษภาคม

วิธีการเดินทาง: สามารถเดินจากสถานี JR Hakuba เป็นเวลา 15 นาที ถ้าเรียกแท็กซี่ก็จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,040 เยน  สำหรับใครที่เดินทางจากท่ารถบัสฮัปโป (Hakuba Happo Bus Terminal) จะได้เวลาเดินประมาณ 30 นาที จึงแนะนำให้เรียกรถแท็กซี่จะสะดวกกว่า ค่าแท็กซี่ประมาณ 1,600 เยน

 

ดูแผนที่ Google Map >

ตารางรถบัสนากาโนะ – ฮาคุบะ >   (แวะจอดที่สถานี JR Hakuba ด้วย)

ปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle)

ปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle) เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของเมืองมัตสึโมโต้ ใครมาเมืองมัตสึโมโต้แล้วไม่แวะ ถือว่ายังไปไม่ถึง นอกจากชิราเดะซากุระ (Shidare-zakura) ที่ห้อยย้อยลงมาเหมือนต้นไทรที่ทางเข้าด้านนอกของตัวปราสาทแล้ว ภายในเขตปราสาทก็ยังมีดอกซากุระอีกหลายพันธุ์ให้ชม  รวมถึงทางเดินรอคูคลองด้านนอกปราสาท ยังมีดอกซากุระรายล้อมไปตลอด สวยงามเหมาะกับการเดินเล่นมากๆ อ้อ! ใครจะเอาเสื่อกับขนมและเครื่องดื่มไปนั่งชมซากุระที่สวนด้านนอกของปราสาทก็จะได้บรรยากาศฤดูใบไม้ผลิที่แท้จริงของชาวญ๊่ปุ่นด้วย

 

ช่วงซากุระบาน: ต้น-กลางเดือนเมษายน

วิธีการเดินทาง: จากสถานี JR Matsumoto เดินไปใช้เวลาประมาณ 20 นาที หรือถ้าใครไม่อยากเดินก็สามารถนั่งรถบัส Town Sneaker สาย North ซึ่งจะออกเดินทางทุกๆ 30 นาทีในวันธรรมดาและทุกๆ 20 นาทีในวันเสาร์-อาทิตย์

 

ดูแผนที่ Google Map >

ตารางรถบัสชินจูกุ – มัตสึโมโต้ >  

ตารางรถบัสทาคายามะ – มัตสึโมโต้ >  

ดูตารางรถบัสไปมัตสึโมโต้ทั้งหมด >  

ดูตารางรถบัส Town Sneaker >  

ซากปราสาททาคาโตะ (Takato Castle)

ซากปราสาททาคาโตะ (Takato Castle) คือหนึ่งในสถานที่ชมซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าจะไม่เหลือซากปราสาทให้ชมแล้ว แต่ที่นี่ก็เต็มไปด้วยต้นซากุระมากมาย ราวกับท้องฟ้าเป็นสีชมพูเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีร้านค้าสตรีทฟู้ด (Yatai) มาออกร้านมากมาย ทำให้การชมซากุระยิ่งมีรสชาติมากขึ้น เสียที่ว่าเนื่องจากที่นี่มีชื่อเสียงมาก ทำให้จำนวนผู้คนมหาศาลแห่เดินทางกันมามากมาย ใครที่ไม่ชอบที่ฝูงคนเยอะๆ คงจะต้องผ่านที่นี่ไปค่ะ

 

ช่วงซากุระบาน: ต้น-กลางเดือนเมษายน

วิธีการเดินทาง: จากสถานี JR Chino และสถานี JR Inashi ในช่วงชมซากุระจะมีรถบัสวิ่งไปท่ารถบัส Takato Station และจากนั้นก็ใช้สามารถใช้เวลาเดินเท้าไปซากปราสาททาคาโตะอีกประมาณ 15 นาที

 

ดูแผนที่ Google Map >

วัดอันโยจิ (Anyo-ji Temple)

วัดอันโยจิ (Anyo-ji Temple) วัดเล็กๆลับๆที่มีชื่อเสียงเรื่องชมดอกซากุระ ที่นี่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษเพราะมีต้นชิดาเระซากุระเก่าแก่ขนาดใหญ่ ซึ่งมีกิ่งที่เต็มไปด้วยซากุระย้อยต่ำลงมาจนเกือบถึงบ่อน้ำด้านล่าง มีที่นิยมของนักถ่ายภาพมากมาย ที่สำคัญยังเดินทางง่ายดายด้วย

 

ช่วงซากุระบาน: ประมาณกลางเดือนเมษายน

วิธีการเดินทาง: จากสถานี JR Matsumoto (AK-01) นั่งรถไฟสาย Kamikochi เป็นเวลา 15 นาทีไปลงที่สถานี Samizo (AK-09) เดินเพียง 1 นาทีก็ถึงวัดอันโยจิ!

 

ดูแผนที่ Google Map >

ดูตารางเวลารถไฟสาย Kamikochi >  

ซากปราสาทโคโมโระ (Komoro Castle Ruins)

ซากปราสาทโคโมโระ (Komoro Castle Ruins) เป็นอีกจุดชมซากุระที่เดินทางไปง่าย สามารถเดินไปได้จากสถานี JR Komoro (แต่อาจจะไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆไปหน่อย) นอกจากจะเดินชมซากุระแล้ว ก็ยังสามารถจ่ายเงินเพื่อนั่งรถให้คนลากพาไปชมซากุระได้ด้วย ข้างๆปราสาทยังมีสวนสัตว์เล็กๆด้วย ครอบครัวไหนมีเด็กเล็กมาน่าจะชอบใจที่นี่

 

ช่วงซากุระบาน: ประมาณต้น-กลางเดือนเมษายน

วิธีการเดินทาง: จากสถานี JR Komoro เดินไปใช้เวลาเพียง 5 นาที

 

ดูแผนที่ Google Map >

สวนสาธารณะกะริว (Garyu Park)

สวนสาธารณะกะริว (Garyu Park) สถานที่ชมดอกซากุระที่รู้จักกับเฉพาะคนท้องที่ แต่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมเยือน รอบๆสวนสาธารณะแห่งนี้เรียงรายไปด้วยดอกซากุระนานาพรรณ ตรงกลางมีบ่อน้ำขนาดใหญ่ สามารถลงไปนั่งเรือถีบได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและร้านขายของกินสตรีทฟู้ด (Yatai) มากมาย ให้นั่งหรือเดินรับประทานได้ด้วย เมนูที่นิยมที่สุดก็คือ “ขนมดังโงะเสียบไม้สามสี” อ้อ! ลืมบอกไปว่าที่นี่ก็มีสวนสัตว์อยู่ข้างๆด้วย

 

ช่วงซากุระบาน: ประมาณกลางเดือนเมษายน

วิธีการเดินทาง: จากสถานี JR Nagano นั่งรถไฟของ Nagano Dentetsu ไปลงที่สถานี Suzaka (ประมาณ 30 นาที) จากหน้าสถานีมีรถบัสไปสวนสาธารณะกะริวหลายสาย ได้แก่ สาย Y และ Sไปลงที่ป้าย Garyu Koen Iriguchi เดินต่ออีก 3 นาที หรือไม่ก็สาย M ไปลงที่ป้าย Garyu Koen ซึ่งอยู่หน้าทางเข้าสวนเลย

 

ดูแผนที่ Google Map >

ดูตารางรถบัสไปนากาโนะทั้งหมด >  

(ตารางรถบัสไปสวนสาธารณะกะริว เช็คได้ที่เว็บไซต์ของ Nagaden Bus )

สุสานโบราณโคโบยามะ (Koboyama Ancient Tomb)

สุสานโบราณโคโบยามะ (Koboyama Ancient Tomb) เป็นเนินเขาไม่สูงมาก เคยขุดพบสุสานฝั่งศพโบราณสมัยศตวรรษที่ 3 คาดว่ามีความเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งในฝั่งตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น บนเนินเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นซากุระมากมายกว่า 4,000 ต้น ย้อมให้เนินเขาทั้งลูกกลายเป็นสีชมพูเลยทีเดียว จากข้างบนมองลงมาจะเห็นทั้งเทือกเขาเจแปนแอลป์ เมืองมัตสึโมโต้ และสีชมพูของดอกซากุระ สวยงามน่าประทับใจ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระยอดนิยมของคนชาวเมืองมัตสึโมโต้

 

ช่วงซากุระบาน: ประมาณกลางเดือนเมษายน

วิธีการเดินทาง: จากสถานี JR Matsumoto ขี่จักรยานไปใช้เวลาประมาณ 25-30 นาที นอกจากนี้ก็ยังสามารถนั่งรถบัส Alpico จากท่ารถบัสมัตสึโมโต้สาย  Namiyanagidanchi (สาย 10 หรือ 23 ) ไปก็ได้ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที โดยลงที่ป้าย Koboyama Iriguchi และลงเดินอีก

 

ดูแผนที่ Google Map >

ดูตารางรถบัสไปสุสานโบราณโคโบยามะ >  

ปราสาททาคาชิมะ (Takashima Castle)

ปราสาททาคาชิมะ (Takashima Castle) ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ปราสาทลอยน้ำ” เพราะในอดีต ตัวปราสาทถูกสร้างอยู่บนเกาะเล็กๆในทะเลสาบสุวะ (Suwa) โดยมีเพียงพื้นดินเล็กๆเชื่อมเกาะเข้ากับฝั่ง ปัจจุบันถึงแม้ว่าชายฝั่งทะเลสาบจะไม่ได้อยู่ติดกับตัวปราสาทแล้ว แต่ก็ยังคงเหลือสวนและคูคลองเหลือให้เห็นอยู่ ถึงแม้ว่าดอกซากุระที่นี่จะไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการเหมือนที่อื่น แต่ถ้าใครได้ไปเที่ยวทะเลสาบสุวะในช่วงซากุระบาน ก็ถือว่าเป็นอีกจุดเช็คอินที่น่าไป

 

ช่วงซากุระบาน: ประมาณกลางเดือนเมษายน

วิธีการเดินทาง: เดินจากสถานีที่ใกล้ที่สุดก็ สถานี JR Kamisuwa ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

 

ดูแผนที่ Google Map >

ดูตารางรถบัสไปสุวะทั้งหมด >  

ปราสาทอุเอดะ (Ueda Castle)

ปราสาทอุเอดะ (Ueda Castle) จุดชมซากุระสุดท้ายที่แนะนำ ที่(ซาก)ปราสาทแห่งนี้มีการจัดเทศกาลชมซากุระพันต้น (Ueda Castle Senbon Sakura) เป็นประจำทุกปี ไม่เพียงแต่เวลากลางวัน ในตอนกลางคืนก็ยังมีการจัดไฟให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้เกือบตลอดทั้งวันเลย ที่สำคัญคือไม่ต้องไปเสียเวลาหาร้านอาหาร เพราะระหว่างช่วงฤดูชมซากุระ สามารถฝากท้องไว้กับร้านยะไตซึ่งขายสตรีทฟู้ดมากมายหลากหลาย เช่น ทาโกะยากิ ยากิโซบะ ไก่ทอดคาราอาเกะ กล้วยชุบช็อกโกแลต เป็นต้น

 

ช่วงซากุระบาน: ประมาณกลางเดือนเมษายน

วิธีการเดินทาง: จากสถานี JR Ueda (Castle Exit) ใช้เวลาเดินประมาณ 12 นาที

 

ดูแผนที่ Google Map >

จุดเช็คอินกินลมชมธรรมชาติในนากาโนะและเจแปนแอลป์

บทความที่คุณอาจสนใจ

เมืองแห่งปราสาทอีกาดำ: รวมสถานที่ สิ่งน่าสนใจและอาหารที่ต้องลองเมื่อไปเที่ยวมัตสึโมโต้ (Matsumoto) – อัพเดตปี 2023

(อัพเดตปี 2023) คู่มือแนะนำเที่ยวคามิโคจิฉบับเต็ม (เที่ยวเมื่อไหร่ เดินทางยังไง เปิดปิดเมื่อไหร่ เดินเที่ยวยังไง)