ดูลิงแก้มแดงขนฟู ตัวกลมน่ารักแช่ออนเซ็น – สวนลิงจิโกะคุดานิ

04 ก.พ. 2020

จังหวัดนากาโนะเป็น 1 ในจังหวัดของญี่ปุ่นที่มีหิมะตกสะสมมากที่สุด และยังมีเมืองออนเซ็นเก่าแก่วิวสวยมากมาย แต่มีออนเซ็นอยู่แห่งหนึ่งที่แปลกประหลาดกว่าที่อื่น เพราะออนเซ็นที่นี่ ไม่ใช่ให้มนุษย์แช่ แต่มีไว้ให้ลิงแช่! ซึ่งก็คือเจ้าลิงแก้มแดงที่เราเรียกกันนี่แหละ และความน่ารักและท่าทางตลกๆของลิงเหล่านี้ก็ทำให้สวนลิงจิโกะคุดานิที่นากาโนะโด่งดังและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก

เนื้อหาบทความ

  1. 1. สวนลิงหิมะ: ที่เดียวในจังหวัดนากาโนะ
  2. 2. ช่วงที่ควรไปเที่ยว
  3. 3. เวลาทำการและราคาค่าเข้าชม
  4. 4. วิธีการเดินทาง
  5. 4.1. เดินทางไปสวนลิงหิมะโดยรถบัส / รถไฟ
  6. 4.2. เดินทางไปสวนลิงหิมะโดยแท็กซี่

สวนลิงหิมะ: ที่เดียวในจังหวัดนากาโนะ

สวนลิงแห่งนี้มีชื่อเรียกเต็มๆว่า “Jigokudani Yaen-koen” หรือบางทีก็เรียกสั้นๆว่าสวนลิงหิมะ (Snow Monkey Park) ชื่อของสวนลิงแห่งนี้มีมีความหมายว่า “หุบเขานรก” มีที่มาจากสถานที่ตั้งที่อยู่ในหุบเขา ล้อมรอบด้วยสันเขาขรุขระท่ามกลางอากาศหนาวเย็นทารุณ สามารถเดินทางจากตัวเมืองนากาโนะได้โดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงหรือประมาณ 2 ชั่วโมงจากฮาคุบะ (ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางจะเขียนไว้ด้านล่างบทความ)

สวนลิงแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1964 ดึงดูดทั้งลิงและมนุษย์จำนวนมากมายให้มาเยี่ยมเยือน ปัจจุบันมีลิงอยู่ประมาณ 150 ตัวอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอยู่บนภูเขาไม่ไกลจากบริเวณบ่อออนเซ็นนี้เอง

จากทางเข้าสวนลิงไปจนถึงบริเวณบ่อออนเซ็น ใช้เวลาเดินประมาณ 25-30 นาที เนื่องจากเป็นทางเดินในภูเขา ไม่มีราวหรือรั้วกั้น นอกจากนี้ในช่วงฤดูหนาวยังมีหิมะและน้ำแข็งเกาะ ทำให้ทางเดินลื่น เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย จึงจำเป็นต้องเตรียมเครื่องแต่งตัวที่เหมาะสม โดยเฉพาะรองเท้าที่พื้นรองเท้าไม่ลื่นง่าย ถึงแม้ว่าทางเดินส่วนใหญ่จะเป็นทางราบ แต่ก็มีบางส่วนที่เป็นบันได ดังนั้นจึงไม่สามารถนำเก้าอี้รถเข็นเข้าไปได้ค่ะ

ก่อนเข้าไปสวนลิง ที่ด้านหน้าทางเข้าจะมีร้านขายของฝากเกี่ยวกับลิงอยู่ ตรงนี้จะมีโทรทัศน์เล็กๆฉาย live camera บริเวณออนเซ็น เราสามารถเช็คก่อนเข้าไปได้ว่ามีลิงลงมาแช่ออนเซ็นหรือเปล่า

ใครยังนึกภาพไม่ออกว่าทางเดินเป็นยังไง ก็ดูได้จาก Google Maps เลย!

บริเวณใกล้ๆกับป้ายรถบัสและทางเข้า มีร้านอาหารและคาเฟ่ “Enza Café” ตกแต่งข้างในสวยงาม จะแวะจิบกาแฟอบอุ่นร่างกาย หรือจะเติมท้องด้วยราเมนร้อนๆที่นี่ก็ย่อมได้

ระหว่างทางเดินไปตรงที่ลิงแช่ออนเซ็นอยู่ จะเจอเรียวกัง Jigokudani Onsen Korakukan สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับลิงจ๋ออย่างใกล้ชิดที่สุด ก็สามารถมานอนพักที่เรียวกังแห่งนี้ได้ แน่นอนว่าที่เรียวกังแห่งนี้มีออนเซ็นกลางแจ้งด้วย กล่าวกันว่าที่เรียวกังเก่าแก่แห่งนี้ที่ได้ ค้นพบพฤติกรรมแปลกๆของลิงพวกนี้ที่ลงไปแช่ออนเซ็นเลียนแบบมนุษย์

แน่นอนว่าการที่ให้มนุษย์และลิงมาแช่อยู่ในบ่อเดียวกันดูจะไม่ค่อยอนามัยเท่าไหร่ เพื่อที่จะให้ทั้งคนและลิงได้แช่ออนเซ็นต่อไปอย่างสงบสุขสันติ จึงได้มีการสร้างออนเซ็นลิงกับคนแยกกัน ซึ่งก็มาก็กลายเป็นที่มาของการสร้างสวนลิงหิมะแห่งนี้นี่เอง

ตรงนี้มีภาพปริศนาธรรมน่ารักๆอยู่ด้วย ใครที่เคยไปศาลเจ้านิกโกโทโชแล้วอาจจะคุ้นๆกับ “ซันเอ็ง” หรือลิงปิดตา ปิดหูและปิดปาก ซึ่งมีหมายความว่า “ไม่ดู ไม่ฟังและไม่พูดในสิ่งที่ไม่ดี” นั่นเอง

เจ้าลิงสองตัวนี้อาจจะคิดว่าออนเซ็นบ่ออื่นลิงเยอะ แช่ไม่สบายเลย ย้ายมาบ่อนี้ดีกว่า สบายใจกว่ากันเยอะ!

เมื่อมาถึงตรงบ่อออนเซ็นแล้ว ก็ทำให้เข้าใจว่าทำไมที่นี่ถึงมีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวนัก เจ้าลิงแก้มแดงที่ดำผุดดำว่าย วิ่งเล่นกัน กอดคลายหนาวให้แก่กัน บางตัวแช่ออนเซ็นหลับตาพริ้มทำหน้าตามีสุข ทั้งๆที่เป็นสัตว์แต่กลับมีพฤติกรรมท่าทางเหมือนมนุษย์เราไม่มีผิด เป็นสถานที่ที่ทำให้เราได้สังเกตพฤติกรรมของลิงในอิริยาบถต่างๆได้อย่างใกล้ชิดที่สุด

ในฤดูหนาวพวกลิงไม่สามารถหาอาหารได้เพียงพอ พนักงานที่ดูแลจึงได้ให้อาหารลิงพวกนี้วันละ 3 ครั้ง เมื่อถึงเวลาให้อาหาร พวกมันก็จะวิ่งเข้ามาอย่างรู้งานเลย

ถึงแม้จะบอกว่าที่นี่เป็นสวนลิง แต่ลิงพวกนี้ก็ใช้ชีวิตอยู่อย่างอิสระ เป็นลิงป่าไปไหนมาไหนได้ตามใจ ไม่มีรั้วหรืออะไรมากั้น จึงมีกฏที่เราต้องทำตามเพื่อความปลอดภัย ได้แก่

  • ไม่ให้อาหารลิง
  • ไม่จับลิง
  • ไม่กินดื่มภายในบริเวณสวนลิง
  • ไม่ใช้ไม้เซลฟี่ ไม่ถ่ายรูปโดยใช้แฟลช

และอย่างที่บอกไปว่าลิงพวกนี้เป็นลิงป่า เพราะฉะนั้นมันก็อาจจะไม่ลงมาจากภูเขาให้เราดูก็ได้

TIP! สามารถเช็คสถานการณ์แบบเรียลไทม์ได้จาก live camera ที่นี่

ช่วงที่ควรไปเที่ยว

หากต้องการดูลิงแช่ออนเซ็น ก็ควรที่จะเดินทางไปในช่วงเดือนม.ค. - ก.พ. แต่ถึงแม้ว่าชื่อสถานที่ Jigokudani (Snow) Monkey Park จะมีคำว่า “หิมะ” อยู่ด้วย แต่ก็ไม่ได้หมายความจะสามารถเดินทางไปได้เฉพาะช่วงหน้าหนาวเท่านั้น ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน จะสามารถเห็นลูกลิงเพิ่งเกิดจำนวนมาก ขึ้นขี่หลังหรือห้อยโหนจากท้องแม่ ดูเป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูไม่น้อย

เวลาทำการและราคาค่าเข้าชม

ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 800 เยน / เด็กอายุ 6-17 ปี 400 เยน / เด็กเล็กต่ำกว่า 6 ปี ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาทำการ: เดือนพ.ย - มี.ค. 9:00 - 16:00 น. และเดือนเม.ษ. - ต.ค. 8:30 - 17:00 น.
*เปิดทุกวันตลอดทั้งปี แต่อาจมีหยุดให้บริการเนื่องจากสภาพอากาศ

วิธีการเดินทาง

เดินทางไปสวนลิงหิมะโดยรถบัส / รถไฟ

กรณีเดินทางจากนากาโนะ

สามารถนั่งรถไฟหรือรถบัสไปได้จากสถานีนากาโนะ

สำหรับรถบัส จะออกจากป้ายรถบัสหมายเลข 23 ฝั่งทางออก East exit ให้บริการโดยรถบัส Nagano Dentetsu ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีก็จะถึงป้าบรถบัสใกล้ๆกับทางเข้า

ส่วนการเดินทางโดยรถไฟ ต้องนั่งไปที่สถานี Yudanaka แล้วต่อรถบัสไปลงที่ป้าย Kanbayashi Onsen หรือ Snow Monkey Park ตามแต่สายที่ขึ้น ซึ่งจะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง (รถไฟท้องถิ่น ไม่รวมอยู่ในเจอาร์พาสใดๆ)

เช็คตารางเวลารถบัสจากสถานี Yudanaka  (ในช่วงฤดูหนาวจะมีรอบรถบัสมากกว่า)
ส่วนตารางเวลารถไฟไฟสถานี Yudanaka

สำหรับการเดินทางมานากาโนะ สามารถตรวจสอบตารางเวลาบัสได้ตามด้านล่าง

หลังจากถึงป้ายรถบัสใกล้ๆกับสวนลิงแล้ว ก็ยังต้องใช้เวลาเดินเข้าไปอีกประมาณ 30 -40 นาทีกว่าจะถึงจุดที่ลิงลงแช่ออนเซ็น

กรณีเดินทางจากฮาคุบะ

สำหรับคนที่ไปเล่นหิมะหรือสกีที่ฮาคุบะ ก็สามารถเดินทางไปเที่ยวสวนลิงแบบไปเช้า-เย็นกลับได้  โดยมีรถบัสที่วิ่งเชื่อมต่อระหว่างฮาคุบะกับสวนลิงโดยตรง โดยไม่ต้องต่อรถ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ดูตารางเวลาบัสจากฮาคุบะไปสวนลิงหิมะ

เดินทางไปสวนลิงหิมะโดยแท็กซี่

ใครที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง การใช้บริการแท็กซี่ก็อาจจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจค่ะ โดยเฉพาะคนที่เดินทางเป็นกลุ่มหรือครอบครัว สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่นี่

แนะนำร้านอาหาร & บาร์น่านั่งกับอาหารอร่อยๆในฮาคุบะ (แถมลายแทงออนเซ็น)
เดินเล่นชมเมือง ย้อนเวลากลับไปยุคซามูไรที่มัตสึชิโระ

บทความที่คุณอาจสนใจ

ใครว่าคามิโคจิไปตอนฤดูหนาวไม่ได้ แอดมินจะพาไปเอง

จุดเช็คอินกินลมชมธรรมชาติในนากาโนะและเจแปนแอลป์